แอมะซอน บริษัทอีคอมเมิร์ชยักษ์ใหญ่เปิดเผยว่า พนักงานในโกดังและพนักงานร้านค้าในสหรัฐฯ ติดโควิด-19 เกือบ 20,000 ราย ในช่วงที่ผ่านมา และมีเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 ราย หลังจาก วอลมาร์ท ระบุว่ามีพนักงาน 1 เปอร์เซ็นต์ ของทั้งหมด 1.5 ล้านคน ติดโควิด-19
แอมะซอน บริษัทอีคอมเมิร์ชของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า พนักงานของบริษัทซึ่งทำงานมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรง ในสหรัฐฯ 19,816 ราย ติดเชื้อโควิด-19 หรือคิดเป็นอัตราส่วน 1.44 เปอร์เซ็นต์ ของพนักงานทั้งหมด 1.37 ล้านคนในสหรัฐฯ
การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเกิดจากการกดดันของกลุ่มแรงงาน นักการเมืองและหน่วยงานที่กำกับดูแลให้แอมะซอนเปิดเผยข้อมูลการติดเชื้อโควิด-19 ของพนักงาน
ในช่วงเริ่มต้นของการระบาดในสหรัฐฯ พนักงานโกดังสินค้าของแอมะซอนแสดงความกังวลว่า ทางบริษัทไม่มีมาตรการปกป้องพนักงานจากอาการเจ็บป่วย และเรียกร้องให้มีการปิดโกดังหลังจากมีการยืนยันว่ามีผู้ติดเชื้อ ซึ่งที่ผ่านมาแอมะซอนยืนยันจะไม่เปิดเผยข้อมูลพนักงานที่ติดเชื้อโควิด-19 ให้ทราบ
นอกจากจำนวนผู้ติดเชื้อแล้ว แอมะซอนยังระบุว่า นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีพนักงานแอมะซอนเสียชีวิตจากการติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 10 ราย
ไม่เพียงแต่แอมะซอนเท่านั้นที่มีการเปิดเผยตัวเลขของพนักงานที่ติดเชื้อ ก่อนหน้านี้ วอลมาร์ท ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ ก็เปิดเผย เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาว่า มีพนักงานประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ จากพนักงานทั้งหมด 1.5 ล้านคน ที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่วอลมาร์ทไม่เปิดเผยว่ามีพนักงานกี่รายที่ติดเชื้อและยังไม่มีการอัปเดตข้อมูลดังกล่าวให้ทราบ
ปัจจุบันแอมะซอนกำลงจะเริ่มตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้แก่พนักงานที่ให้บริการกับลูกค้าโดยตรง โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถตรวจได้วันละ 1,000 ราย และคาดว่าจะเพิ่มปริมาณการตรวจได้เป็น 50,000 รายต่อวัน ในโกดังและร้านค้ากว่า 650 แห่งทั่วสหรัฐฯ ภายในเดือนพ.ย.นี้